นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) บริษัท นิ่มลีสซิ่ง จำกัด


          บริษัท นิ่มลีสซิ่ง จำกัด (“บริษัท”) ให้ความใส่ใจและมองเห็นถึงความสำคัญในความเป็นส่วนตัวและความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) ขึ้นมาเพื่อเรียนมายังท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงแนวทางและวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของท่าน เพื่อให้ท่านได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท และเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

 

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผย
          1.1 “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

ข้อมูลส่วนตัว ที่บริษัทเก็บรวบรวมได้แก่

 

ข้อมูลเพื่อการติดต่อ

 

ข้อมูลการศึกษาและการทำงาน

 

ข้อมูลความเป็นเจ้าของกิจการ

 

ข้อมูลทางการเงินและการทำธุรกรรม

 

ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือ

 

ข้อมูลอื่นๆ

 

          1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data)

          ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะเกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ ทั้งนี้บริษัทไม่มีเจตนาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวจากท่าน

          ในบางกรณี หากบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวจากท่าน เพื่อใช้ประกอบการให้บริการและหรือผลิตภัณฑ์แก่ท่าน ได้แก่ ข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ลายพิมพ์นิ้วมือ ข้อมูลลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในการนำมาใช้สำหรับการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลที่เป็นผู้ลงลายมือชื่อนั้น ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวต่อเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือกรณีมีความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือที่กฎหมายอนุญาต

          1.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
          บริษัทไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เว้นแต่บริษัทจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) โดยผู้ใช้อำนาจปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) มีหน้าที่ในการแจ้งให้กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นทราบ

          1.4 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามอื่นใด
          หากท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามอื่นใด ซึ่งเป็นบุคลากรของนิติบุคคล และ / หรือ ที่เกี่ยวข้องกับท่านแก่บริษัท เช่น ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน บุคคลในครอบครัว บุคคลอ้างอิง คู่ค้า ผู้ค้ำประกัน ผู้รับผลประโยชน์ ผู้จัดการมรดก ผู้ติดต่อฉุกเฉิน เป็นต้น ท่านมีหน้าที่แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบเกี่ยวกับรายละเอียดตามนโยบายฉบับนี้ และขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้นหากจำเป็น หรือกำหนดฐานทางกฎหมายอื่นเพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทสามารถเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามเหล่านี้ได้


2. บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ใดบ้าง
          บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประกอบการพิจารณาสินเชื่อ ทำนิติกรรมสัญญา ดำเนินการเพื่อให้มีการปฏิบัติตามสัญญา และเพื่อดำเนินการตามความยินยอมของท่าน และ / หรือ เพื่อดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ โดยวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้
          ทั้งนี้ วัตถุประสงค์บางประเภทดังต่อไปนี้อาจใช้บังคับกับบางท่านและอาจไม่ใช้บังคับกับบางท่าน โดยบริษัทจะพิจารณาจากลักษณะวัตถุประสงค์ตามความสัมพันธ์ระหว่างท่านและบริษัท เป็นรายกรณีไป
บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของท่านในการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตลอดจนเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่บริษัทหรือท่านต้องปฏิบัติตาม และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ ดังนี้

          2.1. เพื่อให้ท่านได้รับบริการของบริษัทได้ตามความประสงค์และเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท เช่น การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ การผ่อนชำระสินค้า การต่อพรบ. การทำประกันภัย การติดต่อ การแจ้ง การร้องเรียน และเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์จากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตามที่ท่านเลือกให้ความยินยอมไว้

          2.2. เพื่อการดำเนินงานเท่าที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยบริษัทจะไม่ดำเนินการเกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล (Legitimate Interest) เช่น การบันทึกเสียงทาง Call Center การบันทึกภาพจากกล้อง CCTV การบันทึกภาพระหว่างการทำกิจกรรมของบริษัท การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การบริหารความเสี่ยง และการกำกับตรวจสอบ

          2.3. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับ รวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติงานภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) กฎหมายการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และกฎหมายอื่น ๆ ที่บริษัทจำเป็นต้องปฏิบัติตามทั้งของในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงประกาศและระเบียบที่ออกเป็นกฎหมายและใช้บังคับ

          2.4. เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทให้ทันสมัย

          2.5. เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ คำสั่งที่มีผลบังคับใช้ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลตามหมายศาล หรือหน่วยงานอื่นที่มีอำนาจตามกฎหมายในการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้ทำการเก็บรักษาไว้

          2.6. เพื่อจัดเตรียมเอกสารทางประวัติศาสตร์เพื่อประโยชน์สาธารณะ การค้นคว้า หรือจัดทำสถิติที่สำคัญที่บริษัทได้รับมอบหมายให้ดำเนินการ

3. บุคคลภายนอก ผู้ให้บริการภายนอกหรือผู้ให้บริการช่วง ที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลให้
          3.1. บุคคลภายนอก ได้แก่ บุคคล, นิติบุคคลอื่น, สถาบันการเงินใด ๆ หรือกลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัท ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลภายนอกซึ่งเป็นผู้ให้บริการหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึง ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทและของบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว

          3.2. บุคคลที่กฎหมายกำหนด เช่น หน่วยงานของรัฐหรือผู้มีอำนาจที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานตามกฎหมายหรือวัตถุประสงค์สำคัญ คณะกรรมการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมายของบริษัท หน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย

            ในกรณีเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของให้บุคคลอื่น เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด บริษัทต้องได้รับความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้งก่อน ทั้งนี้การปฏิเสธความยินยอมจะไม่ส่งผลต่อการรับบริการและใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท

4. การส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศ

          บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือกิจการ / ธุรกิจเดียวกันที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัท เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ในประเทศต่าง ๆ ในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานไม่เพียงพอ บริษัทจะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว

5. ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
          บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายและกระบวนการของบริษัท โดยจัดเก็บข้อมูลภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผลเพื่อดำเนินธุรกิจและให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การทำนิติกรรมสัญญากับบริษัท รวมถึงจัดเก็บข้อมูลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมาย อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้จนกว่าการดำเนินการนั้นจะสิ้นสุด ซึ่งรวมถึงระยะเวลาที่เป็นไปได้ในการยื่นอุทธรณ์หรือฎีกา หรือบังคับคดี หลังจากนั้นข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกลบหรือเก็บถาวรตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับอนุญาต

6. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

          6.1. บริษัทจะกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิ หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบาย และแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท

          6.2. บริษัทจะจัดให้มีเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีหน้าที่ให้คำแนะนำในการปฏิบัติ ตรวจสอบการดำเนินการให้ถูกต้อง ประสานงานเมื่อมีปัญหา และรักษาความลับ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนได้ล่วงรู้จากการปฏิบัติหน้าที่

           6.3. หากมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบและแจ้งต่อสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ภายใน 72 ชั่วโมง นับตั้งแต่ทราบเรื่อง หากการละเมิดนั้นมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของท่าน บริษัทจะแจ้งเหตุการณ์ละเมิดให้ท่านทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาอย่างรวดเร็ว

7. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

          7.1. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้ก่อนหน้าในการประมวลผลข้อมูล อย่างไรก็ตาม การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนหน้าโดยชอบด้วยกฎหมาย

          7.2. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลโดยการอ้างอิงฐานกฎหมายอื่นที่ไม่ใช่ฐานความยินยอม

          7.3. สิทธิในการได้รับการแจ้งให้ทราบ ท่านมีสิทธิในการรับทราบข้อมูลของตนเองที่ได้มีการประมวลโดยบริษัทได้รับมาจากการเปิดเผยที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูล และขอให้บริษัททำสำเนาดังกล่าวแก่ท่าน

          7.4. สิทธิในการแก้ไขข้อมูล ท่านมีสิทธิยืนยันความถูกต้องและแก้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ข้อมูลดังกล่าวถูกต้องและเป็นปัจจุบัน

          7.5. สิทธิในการระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีดังกล่าว ทางบริษัทจะไม่ประมวลผลข้อมูลท่านนอกเหนือจากการจัดเก็บข้อมูลเพียงเท่านั้น

          7.6. สิทธิในการขอให้ลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกจากการจัดเก็บของบริษัทได้ เว้นแต่บริษัทต้องได้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลตามกฎหมาย

          7.7. สิทธิในการขอรับและให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้ และให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีดังกล่าว สิทธิในข้อนี้จะสามารถทำได้หากข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกประมวลผลในรูปแบบอัติโนมัติและได้ประมวลผลตามฐานความยินยอม ฐานสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญาหรือก่อนเข้าทำสัญญา

          7.8. สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติติตามหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

8. นโยบายคุกกี้
          คุกกี้ คือ ไฟล์ขนาดเล็กที่จัดเก็บในอุปกรณ์หรือฮาร์ดดิสก์ของท่าน เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์คุกกี้นั้นจะถูกเก็บไว้ในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของท่านและถูกส่งกลับไปยังเว็บไซต์ต้นทาง และคุกกี้ไม่สามารถใช้เพื่อเปิดโปรแกรมหรือเพื่อนำส่งไวรัสเข้าสู่คอมพิวเตอร์ บริษัทอาจใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวม จัดเก็บ และติดตามข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ทางสถิติเพื่อดำเนินการปรับปรุงเว็บไซต์ บริการ และการตลาด ท่านสามารถเลือกได้ว่าจะยอมรับหรือปฏิเสธคุกกี้ โดยท่านสามารถทำการแก้ไขการตั้งค่าเบราว์เซอร์เพื่อปฏิเสธการใช้คุกกี้ได้


เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
          บริษัทได้มีการดำเนินการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทได้จัดทำระเบียบ คำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินงานตามแนวนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย


9. การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ
          - Call Center โทรศัพท์ 097-3458888
          - E-mail: customer_service@nimleasing.com
          - สถานที่ติดต่อ : บริษัท นิ่มลีสซิ่ง จำกัด เลขที่ 72/1 ถนนเมืองสมุทร ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50300